นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy)

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการรวบรวม จัดเก็บ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (ลูกค้า หมายถึง บุคคลที่เป็นเป้าหมายในการดำเนินงานขายของบริษัท ซึ่งต่อไปจะใช้คำจำกัดความดังกล่าวในนโยบายฉบับนี้)และสิทธิของลูกค้าที่เกี่ยวข้อง และวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ซึ่งเปิดเผยสู่สาธารณะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งหัวข้อดังกล่าวให้ทราบ

1.คำนิยามข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้ระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

2.ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทจะเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

2.1.ข้อมูลที่ระบุตัวตนได้ซึ่งถูกกรอกลงในใบสมัคร เช่น ชื่อ-สกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลการติดต่อ ข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น

2.2.ข้อมูลที่ระบุตัวตนได้ซึ่งได้รับจากการพบเจอกับลูกค้าโดยตรง เช่น ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลการติดต่อ เป็นต้น

2.3.ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้รับแบบไม่ได้พบเจอกับลูกค้าโดยตรง (รวมถึงข้อมูลที่ได้รับจากการติดต่อทางโทรศัพท์) เช่น ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลการติดต่อ ไฟล์เสียงสนทนา เป็นต้น

2.4.ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้รับมาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลการติดต่อ เป็นต้น

2.5.IP Address และ คุกกี้ ที่มาจากการเข้าถึงเว็บไซต์บริษัท

3.วิธีการเก็บรวบรวมและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีวิธีเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

3.1.การเก็บรวบรวมข้อมูลจากลูกค้าโดยตรง

  • เอกสารใบสมัครที่มาจากการสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลกับบริษัทและข้อมูลที่บริษัทได้รับจากการสอบถามทางโทรศัพท์
  • เอกสารที่บริษัทได้รับจากการยื่นคำร้องและแบบฟอร์มประเภทต่างๆ กับบริษัท
  • ข้อมูลที่ได้รับจากการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการให้บริการและที่ได้รับในระหว่างการให้บริการแก่ลูกค้าเมื่อลูกค้ามาที่จุดบริการ เมื่อไปพบลูกค้า และด้วยวิธีการการติดต่อทางโทรศัพท์ ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือช่องทางการติดต่อสื่อสารอื่นๆ
  • ข้อมูลที่กรอกเพื่อสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านเว็บไซต์ของบริษัท
  • ข้อมูลการใช้เว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งมาจากการเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัท
  • การเก็บรวบรวมข้อมูลจากบุคคลที่สาม
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท)
  • บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร)
  • สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
  • ผู้เกี่ยวข้องในที่ทำงานของลูกค้าสำหรับเวลาตรวจสอบสินเชื่อ
  • ผู้เกี่ยวข้องในที่ทำงานของลูกค้าหรือบุคคลอ้างอิงของลูกค้าสำหรับเวลาทวงถามหนี้

4.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

การรับสมัครสินเชื่อ การพิจารณาสินเชื่อ และการให้สินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับลูกค้า

  • การบริหารบัญชีสินเชื่อส่วนบุคคลของลูกค้า
  • การพัฒนาการให้บริการลูกค้า
  • กิจกรรมส่งเสริมการขาย
  • การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า
  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์
  • การดำเนินการตามกฎหมายแต่ละประเภท

โดยบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้นหรือ ตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ หรือมีฐานกฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอนุญาตไว้เท่านั้น

5.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลที่สาม

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลที่สามตามกรณีดังต่อไปนี้

5.1การดำเนินการตามกฎหมายและคำร้องขอจากหน่วยงานรัฐบาล

  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท)
  • บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร)
  • สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ   ศาล
  • การดำเนินการตามคำร้องขอจากแต่ละหน่วยงานรัฐตามกฏหมายแห่งราชอาณาจักรไทยอื่นๆ

5.2การปฏิบัติงานเกี่ยวกับสัญญาที่มีกับลูกค้า

  • การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการรับสมัครลูกค้า
  • การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการให้เงินกู้แก่ลูกค้า
  • การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารบัญชี (การทวงถามหนี้)
  • การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการพิมพ์และส่งเอกสาร (ใบแจ้งหนี้ รายงานประจำปี จดหมายทวงถามหนี้ ฯลฯ) ไปยังลูกค้า
  • การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการขนส่งและจัดเก็บใบสมัครของลูกค้า
  • การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการพัฒนา ใช้ และบำรุงรักษาระบบการบริหารบัญชีลูกค้า
  • ผู้ที่บริษัทโอนขายหนี้ของบริษัทให้เวลาโอนขายหนี้

5.3การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการให้บริการลูกค้า

5.3.1การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการปรับปรุงโฆษณาเกี่ยวกับการรับสมัครผ่านทางเว็บไซต์ให้มีความเหมาะสมมากที่สุด

บุคคลที่สามที่เราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้นั้น อาจรวมถึงบุคคลและนิติบุคคลในต่างประเทศ ซึ่งมีการบังคับใช้กฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับเดียวกับประเทศไทย หรือบุคคลและนิติบุคคลในต่างประเทศ ซึ่งไม่มีการบังคับใช้กฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับเดียวกับประเทศไทย

5.3.2การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

  • ลักษณะการเก็บ-เก็บเป็นเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรและวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์
  • สถานที่จัดเก็บ-ในกรณีที่เป็นเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร บริษัทจัดเก็บในห้องหรือตู้ที่ติดตั้งอุปกรณ์นิรภัยในกรณีที่เป็นวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทจัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ที่ติดตั้งในห้องที่ติดตั้งอุปกรณ์นิรภัย

5.3.3ระยะเวลาจัดเก็บ

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล

ระยะเวลาจัดเก็บ

ข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประชาชน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ สถานที่ติดต่อ (ยกเว้นไฟล์เสียงสนทนา, IP Address และ คุกกี้)

15 ปี

ไฟล์เสียงสนทนา

6 เดือน

IP Address

6 เดือน

คุกกี้

3 เดือน

  • เว้นแต่มีเหตุอื่นตามกฎหมายที่สามารถจัดเก็บไว้ได้นานกว่านั้น อาทิ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • การดำเนินการเมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บเป็นเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร จะทำลายภายใน 3 เดือนนับแต่สิ้นสุดระยะเวลาจัดเก็บ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ จะลบภายใน 1 เดือนนับแต่สิ้นสุดระยะเวลาจัดเก็บ

6.สิทธิของลูกค้า

6.1ลูกค้ามีสิทธิดังต่อไปนี้

  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม: ลูกค้ามีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าจัดเก็บอยู่กับบริษัท
  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ลูกค้ามีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองและมีสิทธิในการขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงสิทธิในการขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้าไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทได้
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง: ลูกค้ามีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ หรือแก้ไขข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล: ลูกค้ามีสิทธิในการขอให้บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล: ลูกค้ามีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล: ลูกค้ามีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมรายอื่น หรือตัวลูกค้าเองด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย: ลูกค้ามีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการยื่นคำร้องทุกข์: ลูกค้ามีสิทธิในการยื่นข้อโต้แย้งต่อการละเมิด ในกรณีที่บริษัทละเมิดพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  • ลูกค้าสามารถติดต่อมายังผู้รับเรื่องดำเนินการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิได้ (รายละเอียดการติดต่อระบุในหัวข้อ “ ช่องทางติดต่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล”)
  • และลูกค้าสามารถตรวจสอบรายละเอียดเงื่อนไข ข้อยกเว้นการใช้สิทธิต่างๆ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ที่เว็บไซต์กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
  • ทั้งนี้ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการดำเนินการตามสิทธิข้างต้น แต่ในกรณีที่เป็นการยื่นคำร้องที่ไม่สมเหตุสมผล หรือเป็นคำร้องที่มีค่าใช้จ่ายสูงเกินควร โดยมิใช่กรณีที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าว บริษัทอาจเก็บค่าธรรมเนียมกับลูกค้าตามความจำเป็น
  • บริษัทจะพิจารณาคำร้องของลูกค้าและแจ้งผลการพิจารณาภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องดังกล่าว
  • ในกรณีดังต่อไปนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องปฏิเสธคำร้องขอของลูกค้า เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
    • กรณีที่ไม่สามารถแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนได้ว่าผู้ยื่นคำร้องเป็นเจ้าของข้อมูลหรือมีอำนาจในการยื่นคำร้องขอดังกล่าว
    • คำร้องขอดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล อาทิ กรณีที่ผู้ร้องขอไม่มีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล หรือไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ที่เรา
    • คำร้องขอดังกล่าวเป็นคำร้องขอฟุ่มเฟือย อาทิ เป็นคำร้องขอที่มีลักษณะเดียวกัน หรือ มีเนื้อหาเดียวกันซ้ำๆ กันโดยไม่มีเหตุอันสมควร
    • การปฏิบัติตามคำขอนั้นจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น อาทิ การเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามด้วย หรือเป็นการเปิดเผยทรัพย์สินทางปัญญา หรือความลับทางการค้าของบุคคลที่สาม
    • เหตุอื่นตามที่กฎหมายกำหนด อาทิ การปฏิบัติตามกฎหมาย  การปฏิบัติตามคำสั่งศาล หรือ การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

7.กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด

บริษัทจะส่งข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาด และการส่งเสริมการตลาด ที่เกี่ยวกับการให้บริการของบริษัทที่คิดว่าลูกค้าอาจสนใจเพื่อประโยชน์ในการให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ หากลูกค้ารับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจากบริษัท โดยลูกค้ามีสิทธิในการถอนความตกลงและปฎิเสธไม่รับข้อมูลดังกล่าวจากบริษัทได้ทุกเมื่อ โดยดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้

  • เมื่อบริษัทโทรศัพท์หาลูกค้าเพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด ท่านสามารถแจ้งพนักงานได้ว่าไม่ต้องการรับข้อมูลดังกล่าว

8.คำจำกัดความของคุกกี้

คุกกี้ คือข้อความที่ถูกบันทึกในคอมพิวเตอร์ของลูกค้าเพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การใช้งานเว็บไซต์ของท่านหรือพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน ซึ่งรวมถึง ประวัติการใช้งานและข้อมูลที่ท่านกรอก ฯ ระหว่างการใช้งานเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต โดยถูกบันทึกเป็นไฟล์ลงในคอมพิวเตอร์ของลูกค้าเมื่อเข้าเว็บไซต์ หากลูกค้าเข้าเว็บไซต์เดิมในครั้งถัดไป ท่านไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลเดิมทุกครั้งเวลา Sign in และยังสามารถเปลี่ยนการแสดงผลสำหรับลูกค้าแต่ละท่านได้ เนื่องจากใช้การอ้างอิงจากข้อมูลคุกกี้ที่ผู้ควบคุมเว็บไซต์บันทึกลงในคอมพิวเตอร์ของท่าน และหากลูกค้าตกลงให้อนุญาตรับส่งคุกกี้ เว็บไซต์จะสามารถรับคุกกี้จากเบราว์เซอร์ของลูกค้าได้

9การใช้คุกกี้

บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์จากผู้เข้าเยี่ยมชมทุกรายผ่านคุกกี้หรือเทคโนโลยีที่ใกล้เคียง และบริษัทจะใช้ คุกกี้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริการของบริษัทผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้งานบริการของบริษัททางอินเทอร์เน็ต โดยการใช้

9.1ประเภทอื่นของบริษัทมีดังนี้

  • เพื่อให้ลูกค้าสามารถ Sign in บัญชีของลูกค้าในเว็บไซต์ของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง
  • บุคคลที่สามที่บริษัทว่าจ้างให้เผยแพร่โฆษณาทำการเก็บคุกกี้จากเว็บไซต์บริษัท เพื่อปรับปรุงการเผยแพร่โฆษณาให้เหมาะกับลูกค้ามากที่สุด

9.2ประเภทของคุกกี้ที่บริษัทใช้

บริษัทใช้คุกกี้ดังต่อไปนี้ สำหรับเว็บไซต์ของบริษัท

  • Functionality ที่ใช้ในการจดจำสิ่งที่ลูกค้าเลือกเป็น Preferences เช่น ภาษาที่ใช้ เป็นต้น
  • Advertising ที่ใช้ในการจดจำสิ่งที่ลูกค้าเคยเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้า บริการ หรือสื่อโฆษณาที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตรงกับความสนใจของลูกค้า

9.3นโยบายคุ้มครองข้อมูลของเว็บไซต์อื่นที่ผ่านบริษัท

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของบริษัทและการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ไม่ใช้กับเว็บไซต์อื่นนอกเหนือจากเว็บไซต์ของบริษัทแม้ว่าจะเข้าสู่เว็บไซต์อื่นผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทก็ตาม

ดังนั้น กรุณาศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์บริษัท เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการที่เว็บไซต์ดังกล่าวอาจนำข้อมูลของท่านไปใช้ด้วย

9.4การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะทำการทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับกฏหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง หรือกรณีที่เห็นว่าจำเป็นต่อการปฏิบัติงาน หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งผ่านเว็บไซต์

9.5ช่องทางติดต่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

  • ช่องทางติดต่อสอบถามภายในบริษัท

ผู้รับเรื่องดำเนินการข้อมูลส่วนบุคคล

199/9  ซอยสุขุมวิท16 (สามมิตร)  แขวงคลองเตย  เขตคลองเตย  

กรุงเทพมหานคร  10110

หมายเลขโทรศัพท์ 02-096-8782

เว็บไซต์ https://byc.co.th

  • ช่องทางติดต่อสอบถามภายนอกบริษัท

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

10.การจัดทำและแก้ไขปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    การจัดทำและแก้ไขปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทมีดังนี้

  • จัดทำเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566

เอกสารสำหรับดาวน์โหลด

ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับลูกค้า
แบบฟอร์มการขอใช้สิทธิสำหรับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Request form)
Scroll to Top